สายไฟแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ AC Cable และ DC Cable ซึ่งหากเลือกใช้ผิดประเภทก็จะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของระบบไฟฟ้า และยังอาจก่อให้เกิดอันตรายได้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ การทำความเข้าใจในความต่างและการใช้งานสำหรับสายไฟแต่ละประเภท จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง
AC และ DC Cable ต่างกันอย่างไร
AC Cable ย่อมาจาก Alternating Current Cable แปลว่าสายไฟชนิดกระแสสลับ ส่วน DC Cable นั้นย่อมาจาก Direct Current Cable แปลว่าสายไฟชนิดกระแสตรง
ไฟฟ้ากระแสสลับ คือไฟฟ้าที่มีทิศทางการไหลสลับกันไปมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีข้อดีคือสามารถปรับเพิ่มลดแรงดันได้ง่ายผ่านการใช้หม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer)
เนื่องจากการปรับเพิ่มแรงดันไฟฟ้านั้นจะสามารถช่วยลดการสูญเสียไฟฟ้าจากการเคลื่อนผ่านในระยะไกลได้ AC Cable จึงนับว่ามีความเหมาะสมต่อการส่งไฟฟ้าในระยะไกล อย่างในกรณีของโครงข่ายเสาไฟฟ้า และระบบสายไฟที่ใช้กันทั่วไปตามบ้านและอาคาร
ส่วนไฟฟ้ากระแสตรง คือไฟฟ้าที่มีทิศทางการไหลเพียงทางเดียว ซึ่งมีข้อดีคือมีความเสถียรและต่อเนื่องสูง DC Cable จึงเหมาะกับระบบไฟฟ้าที่ต้องการความเสถียรและต่อเนื่อง เช่น ระบบโซลาร์เซลล์ กังหันผลิตไฟฟ้า ระบบแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เครื่องจักรในเชิงอุตสาหกรรมบางชนิด เป็นต้น
ทั้งนี้ ในหลายๆ กรณี ไฟฟ้ากระแสสลับและกระแสตรงก็จะถูกใช้ต่อเนื่องกัน อย่างในกรณีของโซลาร์เซลล์ที่ผลิตไฟฟ้าชนิดกระแสตรงออกมา แต่ต้องส่งเข้าโครงข่ายเสาไฟฟ้าที่รองรับได้เพียงไฟฟ้ากระแสสลับ ซึ่งปัญหานี้ก็สามารถแก้ได้ด้วยการใช้ Inverter ที่สามารถแปลงไฟฟ้ากระแสตรงให้เป็นกระแสสลับได้
(จึงเป็นที่มาว่า โซลาร์เซลล์จะใช้ DC Cable ในการเชื่อมต่อระหว่างแผงโซลาร์เซลล์ด้วยกันเอง ระหว่างแผงโซลาร์เซลล์กับแบตเตอรี่ และระหว่างแผงโซลาร์เซลล์กับ Inverter แต่จะใช้ AC Cable ในการเชื่อมต่อระหว่าง Inverter กับระบบโครงข่ายไฟฟ้าภายนอก)
รู้จักกับ AC Cable
AC Cable จะมีรายละเอียดสำคัญต่างๆ ดังนี้
AC Cable คืออะไร
AC Cable (ย่อมาจาก Alternating Current Cable) คือสายไฟสำหรับไฟฟ้าชนิดกระแสสลับ ซึ่งมีข้อดีคือสามารถปรับเพิ่มลดแรงดันได้ง่ายผ่านการใช้หม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer)
AC Cable ใช้กับอะไรบ้าง
เนื่องจากการปรับเพิ่มแรงดันไฟฟ้านั้นจะสามารถช่วยลดการสูญเสียไฟฟ้าจากการเคลื่อนผ่านในระยะไกลได้ AC Cable จึงมักใช้กับการส่งไฟฟ้าในระยะไกล เช่นในกรณีของโครงข่ายเสาไฟฟ้า ระบบสายไฟที่ใช้กันทั่วไปตามบ้านและอาคาร เป็นต้น ด้วยเหตุนี้นี่เอง AC Cable จึงเป็นสายไฟชนิดที่ใช้กันเป็นส่วนใหญ่ในชีวิตประจำวัน
รู้จักกับ DC Cable
ส่วน DC Cable ก็จะมีรายละเอียดสำคัญต่างๆ ดังนี้
DC Cable คืออะไร ใช้กับอะไรบ้าง
DC Cable (ย่อมาจาก Direct Current Cable) คือสายไฟสำหรับไฟฟ้าชนิดกระแสตรง มีข้อดีคือมีความเสถียรและต่อเนื่องสูง จึงเหมาะกับระบบไฟฟ้าที่ต้องการความเสถียรและต่อเนื่อง
DC Cable ใช้กับอะไรบ้าง
ตัวอย่างการใช้งาน DC Cable ก็อย่างเช่น ระบบโซลาร์เซลล์ กังหันผลิตไฟฟ้า ระบบแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เครื่องจักรในเชิงอุตสาหกรรมบางชนิด เป็นต้น
ทั้งนี้ DC Cable จะสามารถต่อเข้ากับ Inverter เพื่อแปลงกระแสไฟฟ้าจากชนิดกระแสตรงให้เป็นกระแสสลับได้ อย่างในกรณีของโซลาร์เซลล์ที่ต้องส่งไฟฟ้าไปยังโครงข่ายเสาไฟฟ้า ซึ่งรองรับได้เพียงไฟฟ้าชนิดกระแสสลับเท่านั้น
การใช้ AC Cable และ DC Cable ในระบบโซลาร์เซลล์
จากที่กล่าวมาจะสรุปได้ว่า การใช้สายไฟในระบบโซลาร์เซลล์จะใช้ DC Cable ในการเชื่อมต่อระหว่างแผงโซลาร์เซลล์ด้วยกันเอง ระหว่างแผงโซลาร์เซลล์กับแบตเตอรี่ และระหว่างแผงโซลาร์เซลล์กับ Inverter แต่จะใช้ AC Cable ในการเชื่อมต่อระหว่าง Inverter กับระบบโครงข่ายไฟฟ้าภายนอก
บทสรุป
AC Cable หรือ Alternating Current Cable คือสายไฟชนิดกระแสสลับ มักใช้กับโครงข่ายเสาไฟฟ้า และระบบสายไฟที่ใช้กันทั่วไปตามบ้านและอาคาร ส่วน DC Cable หรือ Direct Current Cable คือสายไฟชนิดกระแสตรง มักใช้กับระบบโซลาร์เซลล์ กังหันผลิตไฟฟ้า ระบบแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เครื่องจักรในเชิงอุตสาหกรรมบางชนิด เป็นต้น ทั้งนี้ การแปลงไฟฟ้าจากกระแสตรงเป็นกระแสสลับนั้นจะสามารถทำได้โดยใช้ Inverter ซึ่งจะมีความจำเป็นในบางกรณี เช่น การส่งไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโซลาร์เซลล์ไปยังโครงข่ายไฟฟ้าภายนอก เป็นต้น
GMS Solar ผู้จัดจำหน่ายสายไฟโซลาร์เซลล์ชั้นนำในไทย
GMS Solar เป็นผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ด้านพลังงานสะอาดสำหรับงานโครงการ เช่น สายไฟโซลาร์เซลล์ ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (BESS) ฯลฯ โดยเป็นบริษัทในเครือ GMS Interneer ซึ่งมีประวัติการดำเนินงานในอุตสาหกรรมพลังงานมากว่า 20 ปี
ที่ผ่านมา GMS Solar ได้จำหน่ายสายไฟโซลาร์เซลล์ภายใต้แบรนด์ ZTT Cable ไปแล้วกว่า 1 ล้านเมตร ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเนื่องด้วยจุดเด่นหลายประการ เช่น
- มีคุณภาพสูง เป็นสายไฟ Class 5 ชนิดกระแสตรง (DC) ที่ผลิตจากทองแดงเคลือบดีบุก ใช้วัสดุฉนวนและปลอกหุ้มเป็น XLPO และ XLPE ซึ่งสามารถทนความร้อนและแสงยูวีได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้สามารถใช้ได้กับทั้งงานติดตั้งในร่มและกลางแจ้ง
- มีความทนทานสูง สามารถทนต่อแสงยูวีรวมถึงอุณหภูมิและสภาพอากาศที่รุนแรง ผ่านการทดสอบการต้านการลุกลามของไฟ การทนต่อโอโซน ตลอดจนการทนต่อสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรดหรือด่าง
- มีความทนต่อน้ำและความชื้น ผ่านการทดสอบ Water Resistance ตามมาตรฐาน 2PfG 2750/09.20 ทำให้สามารถใช้ได้ครอบคลุมโครงการหลากหลายรูปแบบ ทั้ง Solar Farm และ Solar Roof
- มีมาตรฐานรองรับ ผ่านการทดสอบและรับรองตามมาตรฐาน EN 50618:2014 และ IEC 62930:2017 ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากลสำหรับสายไฟโซลาร์เซลล์ที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ทั้งยังมีรายงานผลการทดสอบในทุก Lot การผลิต จึงช่วยให้สามารถมั่นใจในคุณภาพได้อย่างเต็มที่
จุดเด่นเหล่านี้เมื่อผนวกกับทีมงานผู้เชี่ยวชาญ จึงเกิดเป็นโซลูชั่นด้านสายไฟโซลาร์เซลล์ที่มีคุณภาพสูง ครบถ้วนทั้งในส่วนของสินค้าและบริการ พร้อมที่จะส่งมอบให้กับทุกโครงการสำคัญของคุณ