สาย PV หรือที่หลายคนนิยมเรียกว่า สายไฟโซลาร์เซลล์ หรือ Solar Cable นับเป็นส่วนสำคัญของระบบโซลาร์เซลล์ โดยการเลือกใช้ก็จะต้องเลือกขนาดให้เหมาะสม เพื่อให้สามารถรองรับกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้อย่างเพียงพอและปลอดภัย ซึ่งในบทความนี้ ทาง GMS Solar ก็ได้นำแนวทางการเลือกขนาด รวมถึงข้อมูลความต่างระหว่างสาย PV เบอร์ 4 และ 6 ซึ่งเป็นขนาดที่ได้รับความนิยมสูงมาให้ชมกัน
สารบัญเนื้อหา
Toggleสาย PV เบอร์ 4 และ 6 ต่างกันอย่างไร
สาย PV เบอร์ 4 และ 6 จะมีจุดต่างหลักๆ ดังนี้
- ขนาด สาย PV เบอร์ 4 และเบอร์ 6 มีขนาดพื้นที่หน้าตัดลวดตัวนำไฟฟ้า 4 mm² และ 6 mm² ตามลำดับ ซึ่งหมายความว่าสาย PV เบอร์ 6 มีขนาดใหญ่กว่า
- น้ำหนัก ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่า สาย PV เบอร์ 6 จึงมีน้ำหนักที่มากกว่าสาย PV เบอร์ 4
- ความสามารถในการทนกระแส ทั่วไปแล้ว สาย PV เบอร์ 4 จะรองรับกระแสไฟฟ้าได้ประมาณ 55 A ส่วน สาย PV เบอร์ 6 จะรองรับกระแสไฟฟ้าได้ประมาณ 70 A ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับรายละเอียดสเปคในส่วนอื่นๆ ด้วย เช่น วัสดุลวดตัวนำ วัสดุฉนวนและปลอกหุ้ม ชนิดของสาย PV (หากเป็นสายชนิด H1Z2Z2-K ก็มักจะรองรับกระแสได้มากกว่าสายชนิด PV1-F) เป็นต้น
- ความต้านทาน สาย PV เบอร์ 4 จะมีค่าความต้านทานที่สูงกว่าสาย PV เบอร์ 6 ซึ่งจะมีผลทำให้เกิดแรงดันตกและเกิดความร้อนได้มากกว่า (ด้วยเหตุนี้นี่เอง การเลือกขนาดสาย PV ที่ใหญ่เพียงพอต่อปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ใช้ จึงมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพการทำงานและความปลอดภัยของระบบโซลาร์เซลล์)
- ราคา ด้วยขนาดที่เล็กกว่า ทั่วไปแล้ว สาย PV เบอร์ 4 จึงมีราคาที่ถูกกว่าสาย PV เบอร์ 6
ทั้งนี้ ขนาดของสาย PV จะเป็นเพียงรายละเอียดสเปคแค่ส่วนเดียว ไม่อาจใช้บ่งบอกคุณสมบัติได้ทั้งหมด การพิจารณาเลือกซื้อและใช้งานนั้นจึงควรอิงกับ Datasheet ของผลิตภัณฑ์เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน
ตารางเปรียบเทียบความต่างระหว่างสาย PV เบอร์ 4 และเบอร์ 6
คุณสมบัติ | สาย PV เบอร์ 4 | สาย PV เบอร์ 6 |
---|---|---|
ขนาดพื้นที่หน้าตัด | 4 mm² | 6 mm² |
กระแสไฟฟ้าที่รองรับ | ประมาณ 55 A | ประมาณ 70 A |
ค่าความต้านทาน | ประมาณ 5.09 Ω/km | ประมาณ 3.39 Ω/km |
น้ำหนัก | เบากว่า | หนักกว่า |
ราคา | ถูกกว่า | แพงกว่า |
การใช้งาน | เหมาะสำหรับระบบขนาดเล็ก | เหมาะกับระบบที่ใช้กำลังไฟสูงและเดินสายไกลกว่า |
วิธีเลือกขนาดสาย PV ที่เหมาะสม
การเลือกขนาดสาย PV ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยสามารถพิจารณาดังนี้
- ประเมินค่าต่างๆ ของระบบโซลาร์เซลล์ โดยจะต้องรู้ค่ากำลังไฟและแรงดันไฟฟ้าของระบบโซลาร์เซลล์ จากนั้นก็ใช้สูตรคำนวณ กระแสไฟฟ้า (A) = กำลังไฟฟ้า (W) / แรงดันไฟฟ้า (V) เพื่อหาค่ากระแสไฟฟ้าออกมา
- ประเมินระยะทางและค่าแรงดันตกที่รับได้ ประเมินค่าแรงดันตกที่รับได้ (Acceptable Voltage Drop) ซึ่งทั่วไปแล้วมักจะอยู่ในช่วง 2-5% จากนั้นก็พิจารณาระยะทางที่ต้องเดินสาย
- เลือกขนาดของสาย PV ที่เหมาะสม เมื่อได้ข้อมูลจำเป็นต่างๆ ครบถ้วนแล้ว ก็สามารถนำไปเทียบตาราง Wire Gauge Chart หรือใช้โปรแกรมคำนวณเพื่อให้ได้ขนาดของสาย PV ที่เหมาะสม
ปัจจัยอื่นๆ ที่ควรพิจารณาเพิ่มเติม
นอกจากประเด็นในเรื่องขนาดของสาย PV แล้ว การเลือกซื้อและใช้งานก็ควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ เพิ่มเติมอีกดังนี้
- วัสดุ สาย PV อาจมีความต่างในเรื่องของวัสดุที่ใช้ด้วยเช่นกัน ทั้งในส่วนของลวดตัวนำที่อาจเป็นทองแดงหรืออลูมิเนียม และในส่วนของฉนวนและปลอกหุ้ม ที่จะมีทั้ง PVC, PE, XLPE และ XLPO ซึ่งหากต้องการสาย PV ที่มีความทนทานสูง ก็ควรเลือกใช้ลวดตัวนำเป็นทองแดง และใช้ฉนวนและปลอกหุ้มเป็น XLPE หรือ XLPO เป็นหลัก
- ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม สายไฟ PV หากติดตั้งกลางแจ้งก็จะต้องทนต่อความร้อน แสงยูวี ลม ฝน และความชื้นได้อย่างเหมาะสม การเลือกซื้อจึงควรพิจารณาคุณสมบัติเหล่านี้ด้วย ซึ่งสามารถดูได้จาก Datasheet และมาตรฐานรับรอง
- แรงดันไฟฟ้าที่รองรับ ต้องเลือกสาย PV ที่รองรับแรงดันไฟฟ้าของระบบได้อย่างเพียงพอ โดยปัจจุบันส่วนใหญ่จะรองรับแรงดันไฟฟ้าได้ในช่วง 1,000V – 1,500V
- ความยืดหยุ่น สาย PV ที่ดีควรมีความยืดหยุ่นเพียงพอสำหรับการติดตั้งและการบำรุงรักษา ไม่ควรแข็งเกินไปจนดัดโค้งยาก แต่ต้องแข็งแรงพอที่จะทนต่อแรงดึงและการบิดงอ
- การรับรองมาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจในประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้งาน การเลือกสาย PV จึงควรเลือกเฉพาะที่มีมาตรฐานรับรองอย่างเหมาะสม ซึ่งมาตรฐานของสาย PV ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลก็ได้แก่ EN 50618 และ IEC 62930 เป็นต้น
GMS Solar ผู้จัดจำหน่ายสาย PV สำหรับงานโครงการ
GMS Solar เป็นผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ด้านพลังงานสะอาดสำหรับงานโครงการ เช่น สาย PV ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (BESS) ฯลฯ โดยเป็นบริษัทในเครือ GMS Interneer ซึ่งมีประวัติการดำเนินงานในอุตสาหกรรมพลังงานมากว่า 20 ปี
ที่ผ่านมา GMS Solar ได้จำหน่ายสาย PV ภายใต้แบรนด์ ZTT Cable ไปแล้วกว่า 1 ล้านเมตร ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเนื่องด้วยจุดเด่นหลายประการ เช่น
- มีคุณภาพสูง เป็นสายไฟแบบ Stranded ชนิดกระแสตรง (DC) ที่ผลิตจากทองแดงเคลือบดีบุก ใช้วัสดุฉนวนและปลอกหุ้มเป็น XLPO และ XLPE ซึ่งสามารถทนความร้อนและแสงยูวีได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้สามารถใช้ได้กับทั้งงานติดตั้งในร่มและกลางแจ้ง
- มีความทนทานสูง สามารถทนต่อแสงยูวีรวมถึงอุณหภูมิและสภาพอากาศที่รุนแรง ผ่านการทดสอบการต้านการลุกลามของไฟ การทนต่อโอโซน ตลอดจนการทนต่อสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรดหรือด่าง
- มีความทนต่อน้ำและความชื้น ผ่านการทดสอบ Water Resistance ตามมาตรฐาน 2PfG 2750/09.20 ทำให้สามารถใช้ได้ครอบคลุมโครงการหลากหลายรูปแบบ ทั้ง Solar Farm และ Solar Roof
- มีมาตรฐานรองรับ ผ่านการทดสอบและรับรองตามมาตรฐาน EN 50618:2014 และ IEC 62930:2017 ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากลสำหรับสาย PV ที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ทั้งยังมีรายงานผลการทดสอบในทุก Lot การผลิต จึงช่วยให้สามารถมั่นใจในคุณภาพได้อย่างเต็มที่
จุดเด่นเหล่านี้เมื่อผนวกกับทีมงานผู้เชี่ยวชาญ จึงเกิดเป็นโซลูชั่นด้านสาย PV ที่มีคุณภาพสูง ครบถ้วนทั้งในส่วนของสินค้าและบริการ พร้อมที่จะส่งมอบให้กับทุกโครงการสำคัญของคุณ